รศ. ดร.นงลักษณ์ มีทอง ร่วมบรรยายในงานประชุมสุดยอดด้านเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “Techsauce Global Summit 2024”

รศ. ดร.นงลักษณ์ มีทอง ผู้อำนวยการโรงงานแบตเตอรี่และพลังงานยุคใหม่ และอาจารย์ประจำสาขาวิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ขึ้นบรรยายในหัวข้อ “A Salty Surprise: How Could Sodium Change the Game for Batteries?” ภายในงาน Techsauce Global Summit 2024 บนเวที ClimateTech จัดโดย บริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด ได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากทางภาครัฐบาลและเอกชน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 9 สิงหาคม 2567  ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

รศ. ดร.นงลักษณ์ มีทอง กล่าวว่า “เมื่อประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นฐานการผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์กักเก็บพลังงาน เราจะสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ภายในประเทศ อย่าง แหล่งแร่เกลือหิน หรือ โซเดียมคลอไรด์ สำหรับการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ปัจจุบันไปสู่ความยั่งยืนได้อย่างไร?”

วันนี้ แบตเตอรี่ชนิดโซเดียมไอออนมีคุณสมบัติทางเคมีและเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกับแบตเตอรี่ชนิดลิเทียมไอออน ซึ่งเป็นข้อดีสำคัญที่ช่วยให้การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทำได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงสายการผลิตหรืออุปกรณ์ที่มีอยู่เดิม อย่างไรก็ตาม โซเดียมมีข้อได้เปรียบที่สำคัญในเรื่องของการมีปริมาณมากในธรรมชาติ ทำให้ต้นทุนในการผลิตต่ำกว่าลิเทียม นอกจากนี้ยังมีความเสถียรด้านความปลอดภัยสูง ด้วยความสามารถในการคงเสถียรภาพที่ระดับ 0 โวลต์ ซึ่งลดความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้หรือความร้อนสูงเกิน

โรงงานแบตเตอรี่และพลังงานยุคใหม่ มุ่งเน้นเทคโนโลยีแบตเตอรี่ชนิดโซเดียมไอออน ด้วยการใช้เกลือบริสุทธิ์ ในการผลิตโซเดียมวาเนเดียมฟอสเฟตเพื่อใช้เป็นขั้วแคโทด และการใช้ไบโอชาร์ในการผลิตวัสดุคาร์บอนแข็งเพื่อใช้เป็นขั้วแอโนด ปัจจุบันถูกนำไปใช้งานในรูปแบบของแพ็กแบตเตอรี่สำหรับรถกอล์ฟไฟฟ้า และอยู่ในระหว่างการประยุกต์ใช้งานในระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System: BESS) ร่วมกับระบบโซล่าเซลล์ภายในปลายปีนี้

แบตเตอรี่ชนิดโซเดียมไอออนมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมากในตลาด BESS ทั้งในภาคอุตสาหกรรม (42.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และภาคที่อยู่อาศัย (12.20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2030 นอกจากนี้ แบตเตอรี่โซเดียมไอออนยังมีความหลากหลายในการนำไปใช้งานในแอปพลิเคชันอื่น ๆ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้าความเร็วต่ำ (Low-speed Electric vehicles) การจัดเก็บพลังงานในระดับโครงข่ายไฟฟ้า (Utility/Grid Scale) การใช้ในศูนย์ข้อมูล (Data Center) และการแทนที่แบตเตอรี่แบบตะกั่วกรด (Lead Acid Replacement) ซึ่งทั้งหมดยืนยันถึงศักยภาพในการครองส่วนแบ่งทางการตลาดที่หลากหลาย ดังนั้น การพัฒนาและนำแบตเตอรี่ชนิดโซเดียมไอออนมาใช้ในวงกว้างจะเป็นการเปิดโอกาสใหม่ให้กับอุตสาหกรรมพลังงาน ไม่เพียงแต่จะช่วยลดต้นทุนในการผลิตและเพิ่มความยั่งยืน แต่ยังเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและสามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยศักยภาพเหล่านี้ แบตเตอรี่ชนิดโซเดียมไอออนจึงถูกมองว่าเป็น “Game Changer” ที่จะมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของพลังงานในปี 2030 และส่งเสริมการเติบโตของตลาดแบตเตอรี่ในอนาคต

“Techsauce Global Summit 2024” งานประชุมสุดยอดด้านเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ธีม ‘The World of Tomorrow With AI’ พร้อมชูประเด็นสำคัญด้าน AI ที่จะขับเคลื่อนอนาคตของโลก ผ่าน 5 แกนเนื้อหาอันสำคัญ ได้แก่ AI for Growth, AI for Good, AI-Human Symbiosis, AI in Culture, และ AI Safety and Governance โดยครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก Speaker ระดับแถวหน้าของวงการกว่า 350 ท่าน ทั้ง Speaker ชั้นนำจากต่างประเทศ นักลงทุน และผู้เชี่ยวชาญสายเทคโนโลยีจากหลากหลายสาขา ผู้บริหารระดับสูงในองค์กรต่างๆ ที่จะมาร่วมแบ่งปันวิสัยทัศน์ ความรู้ และประสบการณ์บนเวทีหลักและเวทีสัมมนากว่า 11 เวที