โรงงานแบตเตอรี่ มข. kkUVolts จับมือ ECUTEC สร้าง Ecosystems ของผู้ผลิตไทย ตอบรับการเติบโตของอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ มุ่งสู่ Net Zero และการใช้งานด้านความมั่นคง

วันที่ 20 สิงหาคม 2568 โรงงานแบตเตอรี่และพลังงานยุคใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท อีซียู เทค จำกัด เพื่อแสดงศักยภาพของผู้ประกอบการไทยในการสร้างระบบนิเวศการผลิตชิ้นส่วนสำคัญและการเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ในประเทศ ข้อตกลงนี้มุ่งส่งเสริมการพัฒนาชิ้นส่วนที่ผลิตโดยคนไทย เพื่อตอบโจทย์การขับเคลื่อนสู่ Net Zero หรือการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ตลอดจนสนับสนุนการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความปลอดภัย ปราศจากความเสี่ยงในการติดตามตำแหน่งหรือการรั่วไหลของข้อมูลที่ไม่พึงประสงค์ สำหรับการใช้งานแบตเตอรี่ด้านความมั่นคง   ณ ห้องประชุม M3 ชั้น 1 อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 จังหวัดขอนแก่น

จากการที่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้สนับสนุนให้โรงงานแบตเตอรี่และพลังงานยุคใหม่ หน่วยงานวิสาหกิจ ผลิตแบตเตอรี่ภายใต้แบรนด์ kkUVolts ที่เป็นเทคโนโลยีระดับสูงที่มีความซับซ้อน ผ่านการค้นคว้าวิจัย และคิดค้นขึ้นใหม่จากนวัตกรรมเชิงวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม จนได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล มาต่อยอดเชิงพาณิชย์ สำหรับระบบกักเก็บพลังงาน และการใช้งานในด้านความมั่นคงของกองทัพ

รศ.ดร. นงลักษณ์ มีทอง ผู้อำนวยการโรงงานแบตเตอรี่และพลังงานยุคใหม่ กล่าวว่า      “kkUVolts เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ไทย ที่ต้องการสร้าง Ecosystems ของอุตสาหกรรมแบตเตอรี่โดยคนไทย ในอดีตเราจำเป็นต้องนำเข้าชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ เช่น ระบบบริหารจัดการแบตเตอรี่ หรือ BMS ซึ่งเปรียบเหมือนสมองของแบตเตอรี่ ที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานให้ปลอดภัย ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีราคาที่ถูกกว่า แต่ไม่สามารถรองรับการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง ต้องใช้ตามที่ผู้ผลิตจากต่างประเทศผลิตตามรุ่นมาตรฐาน รวมถึงมีความเสี่ยงด้านข้อมูลรั่วไหล โดยเฉพาะด้านความมั่นคง จึงจำเป็นต้องเสาะหาคู่ความร่วมมือภายในประเทศ”  สำหรับแบตเตอรี่แบรนด์ UVOLT ที่ผลิตโดยโรงงานแบตเตอรี่และพลังงานยุคใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล และ มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของไทย อีกทั้งมีระบบ IOT ที่ติดตามการใช้งานแบตเตอรี่ ทำให้สามารถสร้างความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพและความปลอดภัยในระดับสากลให้ผู้ใช้งานได้

สำหรับบริษัท อีซียู เทค จำกัด เป็นทีมผู้ผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะภายใต้โครงการ NSTDA Start up ซึ่งเป็นโครงการเพื่อขยายงานวิจัยจากระดับห้องปฏิบัติการสู่โมเดลธุรกิจ โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มีความเชี่ยวชาญด้านระบบบริหารจัดการแบตเตอรี่ (Battery management system: BMS) และระบบควบคุม (Control System) โดยบริษัทฯ มีจุดเด่น ได้แก่

  1. ออกแบบตามความต้องการของลูกค้า ผ่านการทดสอบมาตรฐาน และผลิตในประเทศไทย (Local content)
  2. ความร่วมมือระหว่างนักวิชาการและภาคอุตสาหกรรม ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีขั้นสูง และผ่านการทดสอบมาตรฐานอุตสาหกรรม โดยยังคำนึงเรื่องต้นทุน
  3. การบริการหลังการขายโดยทีมงานไทย
  4. ความมั่นคงด้านข้อมูล เนื่องจากออกแบบและผลิตโดยคนไทย ทำให้ข้อมูลไม่รั่วไหลออกนอกประเทศ

คุณพลพจน์ วรรณภิญโญชีพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีซียู เทค จำกัด กล่าวว่า “ECUTEC ภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับ kkUVolts ในการสร้าง Ecosystem อุตสาหกรรมแบตเตอรี่ที่ขับเคลื่อนโดยคนไทยอย่างแท้จริง จุดยืนของเราคือการออกแบบและผลิตระบบบริหารจัดการแบตเตอรี่ หรือ BMS และ Control System ที่สามารถเชื่อมโยงกับ IOT และ AI โดยฝีมือวิศวกรไทย เพื่อยกระดับเทคโนโลยีให้ตอบโจทย์ทั้งด้านความปลอดภัย ความมั่นคง และการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ของประเทศ ความร่วมมือครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่การจับมือของสององค์กร แต่เป็นการรวมพลังของงานวิจัยไทย เทคโนโลยีไทย และอุตสาหกรรมไทย และเราหวังว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการเชื่อมโยงผู้เล่นในทุกภาคส่วน เพื่อสร้าง Ecosystem แบตเตอรี่ไทยที่แข็งแรงและยั่งยืน”

ภายหลังการลงยนามความร่วมมือดังกล่าว  นายยุทธนากร คณะพันธ์ ได้นำทีมผู้บริหาร บริษัท อีซียู เทค จำกัด นำชมโรงงานแบตเตอรี่และพลังงานยุคใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของโรงงานด้วย

การลงนามในครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งเสริมการพัฒนาชิ้นส่วนที่ผลิตโดยคนไทย เพื่อรองรับการขับเคลื่อนสู่ Net Zero หรือการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความปลอดภัย ปราศจากความเสี่ยงต่อการติดตามตำแหน่งหรือการรั่วไหลของข้อมูลสำหรับการใช้งานแบตเตอรี่ด้านความมั่นคง สะท้อนศักยภาพผู้ประกอบการไทยในการสร้างระบบนิเวศการผลิตชิ้นส่วนสำคัญ และก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ในประเทศอย่างยั่งยืน